วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562

พฤติกรรมของสุนัข

พฤติกรรมของสุนัขที่คุณไม่เคยรู้

  • การศึกษา พฤติกรรม ภาษาทางกายของสุนัขถือเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ เลยนะคะ รวมทั้งการตีความหมาย หรือพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงให้เราเห็น ว่า สุนัข ต้องการจะสื่ออะไรให้เรารับรู้ วันนี้ Petcitiz จึงของอาสาพาเพื่อนๆ มาไขรหัสลับพฤติกรรมต่างๆ ของสุนัขกันค่ะ
  • เราจะเข้าใจสุนัขมากขึ้นจากการศึกษา พฤติกรรม หรือท่าทางที่แสดงออกมา แม้บางอย่างที่แสดงออกมาอาจจะดูซับซ้อน แต่เราในฐานะผู้เลี้ยงก็ต้องทำความเข้าใจ ตีความหมายให้ได้ ลองใช้เวลากันสักนิด หากใครกำลังเกิดคำถามในพฤติกรรมของสุนัขที่กำลังเลี้ยงอยู่ ลองมาอ่านบทความที่เรานำมาฝากในวันนี้กันค่ะ
  • 1.พฤติกรรมขี้เล่น และแสดงความรัก
    พฤติกรรม สุนัข ที่คุณไม่รู้สุนัข มักแสดงออกถึงความมั่นใจ และอยากเล่นสนุกผ่านทางภาษากาย ลองมาดูดีกว่าค่ะว่า เคยเจอพฤติกรรมแบบไหนกันบ้าง
    • มีความมั่นใจ : สุนัขจะยืนอย่างสง่าผ่าเผย ตาดำเล็กลง หางเชิด แกว่งช้าๆ หูอาจตั้งตรง หรืออยู่ในลักษณะผ่อนคลาย
    • ก้มคำนับ : หากนั่งก้มหน้า ห่อหน้าอกมาทางคุณ พร้อมขาหน้าที่แผ่กว้าง ทำก้นและหางชี้ขึ้น นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่า ต้องการเล่นกับคุณ ซึ่งหลายคนมักตีความผิด คิดว่าเป็นท่าเตรียมต่อสู้ของสุนัข
    • ส่ายสะโพก บั้นท้าย : เป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการชวนเล่น กำลังตื่นเต้น และอยากเป็นมิตรค่ะ มันอาจจะเคลื่อนไหววนรอบสุนัขตัวอื่น และเอาสีข้างกระแทกให้ล้มลง ทั้งนี้ ในบางตัวอาจเป็นการสื่อว่าขอให้คุณช่วยเกาด้วยนะคะ
    • พร้อมรบ : ถ้าสุนัขแกว่งหางอย่างรุนแรง และหางชี้ขึ้นด้วย แสดงว่ามันกำลังอยากเล่น อยากแกล้ง แต่กับสุนัขตัวอื่นๆ จะสื่อถึงการท้ารบตบตี พร้อมฟัดกับสัตว์ตัวอื่นๆ ด้วยค่ะ
    • 2.พฤติกรรมของความกังวล และอึดอัด
      หากรู้ว่าพฤติกรรมแบบใดของสุนัขที่กำลังสื่อถึงความรู้สึกกังวล และความอึดอัด ก็จะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการของสุนัข และปลอบโยนได้ตามความเหมาะสมค่ะ
      • การเดินย่ำไปมา : มักเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความว้าวุ่นใจ ตื่นเต้น หรือเบื่อ เมื่อพบพฤติกรรมแบบนี้ พยายามมองหาต้นตอของสาเหตุนะคะ ผู้เลี้ยงจะได้แก้ไขอาการว้าวุ่นใจนี้ได้
      • เมื่อรู้สึกถูกคุกคาม ขนที่คอจะลุกชัน : ด้วยการชันขนตั้งแต่แผงคอลงไปถึงส่วนหลัง เพื่อเป็นกลไกปกป้องตัวเองจากศัตรู ว่า ข้าก็ใหญ่คับฟ้า เป็นความตื่นตัวพร้อมรับเหตุการณ์ ดังนั้น เมื่อพบพฤติกรรมเช่นนี้ คุณควรพาตัวเองออกห่างทันที เพราะความกลัวของสุนัข อาจทำให้เขากัดเราได้ค่ะ
      • หมอบ หรือก้มราบไปกับพื้น : การหมอบเล็กน้อยอาจบ่งบอกถึงความกังวล และการยอมแพ้ ทำนองเดียวกับเวลาที่โก่งตัว หางชี้ลง (แต่ไม่ขด) งอขาเล็กน้อย พร้อมมองไปยังบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกกลัวค่ะ
      • ยกเท้าหน้าไปที่บางสิ่ง พร้อมเอี้ยวตัวหลบ หรือถอยหลังหนี : บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ สับสน หากเอียงหัวไปด้านใดด้านหนึ่ง แสดงว่าสุนัขฟังคุณ แต่ไม่แน่ใจ ขอให้คุณคำอธิบายซ้ำ
      • แกว่งหางช้าๆ ลดต่ำลงเล็กน้อย : บ่งบอกถึงความสับสัน อยากขอคำอธิบาย หรืออาจเป็นแค่การสำรวจสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ บางอย่างอยู่ก็ได้
      • ลดหางลงต่ำ เคลื่อนไหวเล็กน้อย : บ่งบอกถึงความเสียใจ หรือรู้สึกไม่ดีค่ะ
      • 3.พฤติกรรมของความก้าวร้าวพฤติกรรม สุนัข ที่คุณไม่รู้
        ความก้าวร้าวมักนำไปสู่การจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าเราเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้ ก็จะช่วยให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้
        • ลดหางลงต่ำ ขดเข้าใต้หว่างขา : เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความกังวลใจ หวาดกลัว และรู้สึกไม่แน่นอน บางครั้งหางส่ายไปมาด้วย ซึ่งอาจทำให้คุณเข้าใจผิดว่ามันกำลังมีความสุข ท่าทางแบบนี้ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เขาต้องการความเชื่อมั่น และการปกป้องจากผู้เลี้ยง
        • หยุดชะงักกลางคัน บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจในตัวเอง ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือกำลังเตรียมตัวจู่โจม เป็นพฤติกรรมปกติเวลาสุนัขกำลังครอบครองอาหาร หรือของแทะเล่นชิ้นโปรด ฉะนั้น ไม่ควรเข้าไปแย่งกระดูกจากปากสุนัขเชียว มันจะหวงของ อาจจะกัดคุณได้ แม้แต่เจ้าของที่มันรักตาม
        • โน้มตัว และเดินทื่อเข้ามา : บ่งบอกถึงความก้าวร้าว เป็นท่าทีเวลาที่มันต้องการโต้ตอบจากการถูกท้าทายก่อน หางจะขดงอ หรือไม่ก็แกว่งอย่างบ้าคลั่ง
        • เหลือกตาขาวใส่ : เมื่อสุนัขกำลังรู้สึกว่าถูกคุกคาม หรือคิดจะจู่โจม มันจะเหลือกตาขาวใส่สิ่งที่มันเห็นว่าเป็นภัยคุกคามนั่นเองค่ะ
        • แสดงท่าทีก้าวร้าว และจู่ๆ ก็ส่ายศีรษะกับหัวไหล่ : บ่งบอกว่าสุนัขไม่สนใจสิ่งๆ นั้นแล้ว เพราะมันไม่คุกคามอีกต่อไป
        • 4.อ่านพฤติกรรมจากการส่งเสียง
          การเห่า คำราม หอน ร้องหงิงๆ ล้วนแต่เป็นเสียง หรือภาษาที่มีความหมายเป็นเอกลักษณ์ทั้งสิ้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาศึกษาสักหน่อยนะคะ เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะเรียนรู้การสื่อสารของสุนัขค่ะ ทั้งนี้ หากคุณเรียนรู้พฤติกรรมแล้วละก็ คุณจะรู้ว่ามันคือสัญญาณทางกายที่ใช้ในการสื่อสารค่ะ
          • เสียงเห่าดัง แหลม และถี่ : บ่งบอกถึงความก้าวร้าว และหวงแหนอาณาเขต
          • เสียงเห่าสั้น ถี่ แหบแห้ง ดูตื่นตัว : เป็นสัญญาณแจ้งเตือนให้มนุษย์ รู้ว่ากำลังมีภัยมาเยือน ซึ่งมันอาจจะแยกเขี้ยว คำรามสลับไปด้วย
          • เสียงเห่าสั้นๆ มีชีวิตชีวา : เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามันกำลังทักทาย แสดงความเป็นมิตร ยินดีที่ได้พบคุณ (อาจมีเสียงหอนสั้นๆ หรือครางหงิงๆ ร่วมด้วย)
          • เห่าเสียงสูง : มักเกิดขึ้นในเวลาที่สุนัขกำลังอยากเล่นสนุก
          • จู่ๆ ก็หอนเสียงดังแหลมขึ้นมา : แสดงว่ามันอาจกำลังเจ็บปวดจากอะไรสักอย่าง
          • เห่าเสียงต่ำขึ้นมาลอยๆ หรือเห่าเพียงหนึ่งครั้ง : เป็นการเตือนให้คุณถอยห่างออกไป
          • เสียงครวญครางหงิงๆ : สื่อถึงความรู้สึกสุขใจ และพึงพอใจ
          • คำรามอย่างนุ่มนวล : แสดงถึงความขี้เล่น คุณสามารถประเมินได้จากสิ่งแวดล้อม และนิสัยส่วนตัวของสุนัข การคำรามแบบขี้เล่นมักจะสลับด้วยการเห่าอย่างตื่นเต้น                             ที่มา https://www.petcitiz.info/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%8204/

ประวัติของสุนัข

หมา หรือคำสุภาพว่า สุนัข (ชื่อวิทยาศาสตร์Canis lupus familiaris หรือ Canis familiaris)[2] เป็นสัตว์มีเขี้ยวชนิดเชื่องทีถูกคัดเลือกผสมพันธุ์มาเป็นเวลาพันปีจนมีพฤติกรรม การรับรู้ทางประสาทสัมผัส และลักษณะทางกายภาพที่หลากหลาย[3]
แม้ว่าเดิมทีจะคิดกันว่าหมามีต้นกำเนิดจากสายพันธุ์สัตว์มีเขี้ยวที่หลากหลาย (บ้างมองว่าเป็นหมาใน[4] หมาจิ้งจอกทอง[5] และหมาป่า[6]) มีการศึกษาทางพันธุศาสตร์เพิ่มเติมในคริสต์ทศวรรษ 2010 ชี้ว่าหมาเริ่มแตกต่างจากสัตว์มีเขี้ยวคล้ายหมาป่าในยูเรเชียเมื่อ 40,000 ปีที่แล้ว[7]เนื่องจากเป็นสัตว์เชื่องที่เก่าแก่ที่สุด การอยู่ร่วมกับมนุษย์มาเป็นเวลานานทำให้หมามีพฤติกรรมที่ปรับเข้ากับมนุษย์ได้ดี รวมถึงสามารถเติบโตได้โดยกินอาหารประเภทแป้งซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อสัตว์มีเขี้ยวชนิดอื่น[8]